4 วิธี แก้ปัญหาบ้านร้อนให้ได้ผลจริง

24 ตุลาคม 2023
ผู้เขียน wpcoth
4 วิธี แก้ปัญหาบ้านร้อนให้ได้ผลจริง

หากคุณเจอปัญหาบ้านร้อนมากจนส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตของคุณ บทความนี้มีทางออกให้กับคุณ วิธีแก้ปัญหาหรือวิธีป้องกันไม่ให้บ้านร้อนมี 4 วิธีหลักๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้จริงมีการพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผล โดยไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลมให้เปลืองไฟ ก่อนอื่นมาดูกันก่อนว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้บ้านร้อน

สาเหตุที่ทำให้บ้านร้อน

  1. ปัจจัยหลักๆ เกิดจากรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้แผ่เข้ามาในบ้าน ผ่านเข้ามาทางหลังคา ส่งมาถึงฝ้าเพดาน และส่งลงไปยังห้องต่างๆ ภายในตัวบ้าน หากไม่มีการป้องกันใดๆ บ้านของคุณจะต้องร้อนอย่างแน่นอน
  2. ห้องใต้หลังคาหรือช่องว่างใต้หลังคาของบ้านคุณเก็บไอร้อนไว้มากเกินไปจนไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ นั้นจึงเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้บ้านของคุณมีความร้อนมากจนเกินไป

วิธีแก้ปัญหาหรือวิธีป้องกันไม่ให้บ้านร้อน

1. การป้องกันบนหลังคา

ความร้อนที่ผ่านเข้ามาในตัวบ้าน 70% คือหลังคา เพราะหลังคาเป็นสิ่งที่โดนความร้อนจากดวงอาทิตย์เป็นจำนวนมาก วิธีป้องกันไม่ให้หลังคารับความร้อนมากจนเกินไปก็คือใช้สีสะท้อนความร้อนทาบริเวณหลังคา และพ่น PU Foam บนหลังคาเพื่อลดความร้อน เป็นต้น

1.1) ใช้สีสะท้อนความร้อนหรือสีกันความร้อนทาบนหลังคา ใช้สีสะท้อนความร้อนทาทับบนหลังคาจะสามารถสะท้อนความร้อนและลดการดูดความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาชนกับพื้นผิวของตัวหลังคา ซึ่งสีสะท้อนจะทำให้พื้นผิวหลังคามีความเย็นขึ้นเมื่อต้องเจอกับแสงแดด ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการใช้ในงานสถาปัตยกรรมหรืออุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ แต่การใช้สีสะท้อนความร้อนมาช่วยในการทาบนหลังคาบ้านก็เป็นทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน

1.2) พ่น PU Foam บนหลังคา การพ่น PU Foam บนหลังคาเป็นกระบวนการที่ใช้สำหรับซ่อมแซมหลังคาหรือป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศผ่านหลังคาได้ ไม่เพียงแค่นั้นการฉีด PU Foam จะช่วยลดความร้อนได้ด้วย PU Foam คือ วัสดุฉนวนที่ถูกสร้างขึ้นจาก “โพลียูรีเทน (Polyurethane)” ซึ่งเป็นวัสดุพอลิเมอร์ที่มีความหนืดและสามารถใช้ป้องกันความร้อนได้ดีอีกด้วย ประโยชน์ของการฉีด PU Foam คือ 1. ช่วยลดความร้อนบริเวณพื้นผิวของหลังคา 2. มีความต้านทานต่อความชื้นสูง 3. มีความหนาแน่นสูงช่วยลดและป้องกันความร้อนจากแสงแดด

2. การป้องกันใต้หลังคา

การใช้ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นติดตั้งไว้บริเวณใต้หลังคาจะช่วยให้ความร้อนที่หลังคาส่งผ่านมาลดน้อยลง เพราะการติดฉนวนกันความร้อนไว้ใต้หลังคาจะช่วยลดความร้อนได้ โดยความร้อนที่ผ่านหลังคาจะถูกตัวฉนวนความร้อนที่มีแผ่นฟอยล์หุ้มช่วยลดความร้อนที่ผ่านมาได้ดีมากๆ

2.1) ฉนวนกันความร้อนแบบอะลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium Foil)

ฉนวนกันความร้อนแบบอะลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium Foil)

ฉนวนกันความร้อนแบบอะลูมิเนียมฟอยล์ เป็นวัสดุที่ทำจากอะลูมิเนียมฟอยล์หนาแน่นและบาง ซึ่งมีความสามารถในการสะท้อนความร้อนและลดการส่งความร้อนผ่านตัวมันเอง ฉนวนชนิดนี้มักถูกใช้ในงานสถาปัตยกรรมเพื่อลดความร้อนในอาคารหรือสิ่งก่อสร้าง ฉนวนความร้อนชนิดอะลูมิเนียมฟอยล์จะมีความมันวาวของผิวแผ่นฟอยล์ พื้นผิวมีความบางเรียบ มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน ไม่อมความร้อน ทนความชื้น ไม่ติดไฟ ไม่ลามไฟ ไม่ฉีกขาดง่าย และกันความชื้นได้ดี

2.2) ฉนวนกันความร้อนแบบโพลีเอธิลีนโฟม (Polyethylene Foam-PE)

ฉนวนกันความร้อนแบบโพลีเอธิลีนโฟม (Polyethylene Foam-PE)

ฉนวนกันความร้อนแบบโพลีเอธิลีนโฟม ผลิตจากโพลีเอทิลีนซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่ได้รับความนิยมเพราะเป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา เป็นวัสดุพอลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนและมีความยืดหยุ่นสูง โครงสร้างฉนวนแข็งแรง เหนียว ทนทานต่อแรงกระแทก มีอายุการใช้งานยาวนาน ที่สำคัญคือมีราคาถูก สามารถนำมาใช้เป็นฉนวนใต้แผ่นหลังคาเมทัลชีทได้ ติดตั้งง่ายและมีความยืดหยุ่นสูงจึงเข้ากับลอนหลังคาเมทัลชีทได้พอดี

2.3) ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิ้ล (Air Bubble เรียกอีกอย่างว่า Bubble Foil)

ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิ้ล (Air Bubble เรียกอีกอย่างว่า Bubble Foil)

ฉนวนกันความร้อนแบบแอร์บับเบิ้ล เป็นวัสดุฉนวนที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนและมีโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีโครงสร้างสังเคราะห์ของอากาศหรือก๊าซเป็นหลัก แอร์บับเบิ้ลมีความโปร่งแสงและน้ำหนักเบามาก มีลักษณะคล้ายกับแผ่นพลาสติกกันกระแทกที่มีมวลอากาศอยู่ตรงกลางและมีแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ประกบทั้ง 2 ด้าน โดยมวลอากาศนี้ทำหน้าที่ในการป้องกันความร้อนและส่วนอลูมิเนียมฟอยล์ทำหน้าที่ในการสะท้อนความร้อนโดยมีหน้ากว้าง 1.20 ม. มีความยาวสูงสุด 20-60 ม. ความหนาโดยรวมตั้งแต่ 4 มม. ถึง 16 มม. ซึ่งความหนาของฉนวนจะส่งผลต่อเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน

2.4) ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้ว (Fiberglass)

ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้ว (Fiberglass)

ฉนวนกันความร้อนแบบใยแก้ว เป็นวัสดุฉนวนกันความร้อนที่ถูกสร้างจากใยแก้ว ซึ่งจะช่วยดูดซับเสียง มีน้ำหนักเบา ไม่ลุกติดไฟ ป้องกันความร้อน ลดความดังของเสียงรบกวนจากภายนอก รักษาความเย็น และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย ฉนวนกันความร้อนชนิดใยแก้วเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ดี มักถูกใช้ในอาคารหรือสิ่งก่อสร้างชนิดต่างๆ

3. เพิ่มช่องระบายอากาศห้องใต้หลังคา

ห้องใต้หลังคาหรือช่องว่างใต้หลังคาเป็นส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับความร้อนภายในบ้านอย่างมาก เพราะห้องใต้หลังคาจะคอยเก็บสะสมความร้อนที่ผ่านมาจากหลังคาตลอดทั้งวัน เมื่อห้องใต้หลังคาได้เก็บสะสมความร้อนเป็นเวลานานความร้อนจะส่งผลต่อฝ้าเพดานหลังจากนั้นไอความร้อนจะส่งมายังบ้านชั้น 2 หรือหากเป็นบ้านชั้นเดียวความร้อนนั้นก็จะกระจายไปทั่วบ้าน นั้นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุที่บ้านของคุณร้อนมาก

วิธีแก้ปัญหา คือ ต้องเพิ่มช่องระบายอากาศในบริเวณห้องใต้หลังคาหรือช่องว่างใต้หลังคานี้เพื่อให้ความร้อนได้ระบายออกไปด้านนอก ไม่เพียงแค่นั้นลมอากาศจากภายยังสามารถผ่านเข้ามาในห้องนี้ได้อีกด้วย ลมพัดเข้าออกจะช่วยถ่ายเทอากาศที่ร้อนออกไปจะช่วยทำให้ห้องใต้หลังคาเกิดความเย็นได้ ถ้าหากแก้ปัญหาโดยการเพิ่มช่องอากาศให้ไหลผ่านห้องนี้ได้จะสามารถแก้ปัญหาหลายๆ อย่างเกี่ยวกับความร้อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

4. เลือกฝ้าเพดานที่ช่วยคลายความร้อนได้ดี

เลือกฝ้าเพดานที่ช่วยในการคลายความร้อนได้ดี นี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณเย็นมากขึ้น เพราะเพดานจะเป็นป้อมปราการด้านสุดท้ายในการที่จะสะท้อนหรือรับความร้อนเข้ามาในบ้าน การเลือกฝ้าเพดานที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติคลายความร้อนจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้บ้านของคุณเย็นขึ้นแน่นอน ขอแนะนำ แผ่นยิปซั่มกันความร้อน เพราะความร้อนที่ผ่านหลังคาจะโดนกันไว้ที่แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ติดไว้ข้างหลังแผ่นยิปซั่มได้ แผ่นยิปซั่มสามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 95% เรียบ เนียน สวยงาม เหมาะสำหรับการออกแบบในหลากหลายพื้นที่ ราคาถูก แถมยังติดตั้งได้ง่าย ปัจจุบันแผ่นยิปซั่มกันความร้อนได้รับความนิยมมากในการสร้างบ้าน

บทความล่าสุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ท่านสามารถใช้ช่องทางการติดต่อกับเราเพื่อสอบถามเพิ่มเติม